สองคำนิยามหลักที่คนไทยปัจจุบันมักจะนิยามคุณสมบัติของ
“กลูต้าไธโอน” คือ “อันตราย” และ “ใช้ฉีดผิวให้ขาว” ซึ่งสองคำนิยามนี้ แท้จริงแล้วออกจะเป็นความคิดแบบเหมารวมอยู่สักหน่อย
ซึ่งทางสถาบันการแพทย์ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับสารกลูตาไธโอนว่า จริงๆแล้วสารกลูตาไธโอนเป็นสารแอนติออกซิเดนซ์
หรือสารที่ต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ที่ถูกเก็บไว้ที่ตับสารกลูต้าโธโอนนี้มีอยู่ในอาหารประเภทโปรตีน
รวมถึงผลไม้จำพวกอะโวคาโด ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะช่วยกำจัดสารอนุมูลอิสระในร่างกายซึ่งมีผลต่อความสมดุลของร่างกาย
และยังกำจัดของเสียและล้างพิษภายในร่างกาย ทำให้ตับทำงานน้อยลง ดังนั้นยาที่มีส่วนประกอบของสารกลูต้าไธโอนจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
แต่เนื่องจากการได้รับสารกลูต้าไธโฮนด้วยการรับประทาน
ทำให้ร่างกายรับสารชนิดนี้น้อยกว่าการใช้กลูต้าไธโอนแบบฉีดเข้าสู่เส้นเลือด
ทำให้คนไทยนิยมการฉีดสารชนิดนี้เข้าสู่เส้นเลือดมากกว่า ซึ่งการใช้กลูต้าไธโอนแบบฉีดก็ว่าเป็นการรักษาแบบไม่ค่อยจะถูกวิธีอยู่แล้ว
และยิ่งใช้รักษาฝ้าหรือเพิ่มความขาว ก็ยิ่งถือว่าเป็นการรักษาที่ผิดวัตถุประสงค์และเกินความจำเป็น
เพราะกลูต้าไทโอนเพียงแต่ช่วยเปลี่ยนยูเมลานินซึ่งเป็นสีผิวที่คล้ำให้กลายเป็นฟีโอเมลานิน
ซึ่งทำให้สีผิวที่คล้ำ ดำเสีย ดูจางขึ้นหรือขาวขึ้น แต่ก็ได้ผลเพียงไม่นาน เนื่องจากฤทธิ์ของกลูต้าไธโอนแบบฉีดจะมีอายุเพียง 4-6 เดือนเท่านั้น ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับเซลล์เม็ดสีผิวของแต่ละคน